เป็นเบรกยุคแรกๆที่นิยมใช้งานกัน และยังคงมีการใช้งานมาจนถึงยุคปัจจุบัน แต่จะติดไว้เพื่อใช้ห้ามล้อหลังเป็นส่วนใหญ่ หลักการทำงาน อธิบายแบบง่ายๆก็คือ ตัวจานเบรก ที่เป็นลักษณะทรงกลม จะยึดติดกับตัวดุมล้อเพื่อหมุนไปพร้อมกันกับตัวล้อ ส่วนช่องว่างด้านในก็จะมีผ้าเบรก ที่เป็นทรงครึ่งวงกลม 2 ชิ้น แนบโค้งไปตามแนวของจานเบรก และที่มีท่อส่งน้ำมันเบรกมาเชื่อมต่อเป็นตัวคอยถ่างผ้าเบรกให้ไปชนกับจานเบรก จนลดความเร็วของล้อลงได้ โดยชุดอุปกรณ์ด้านในนี้จะไม่หมุนไปตามล้อดรัมเบรกนี้เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาถูกกว่าดิสก์เบรก มีระยะเวลาในการใช้งานที่ยาวนานกว่า แต่การเปลี่ยนผ้าเบรกนั้นมีความยุ่งยากกว่า เพราะต้องถอดออกมาทั้งหมดเพื่อทำการเปลี่ยนนั่นเองดิสก์เบรกเป็นประเภทเบรกที่นิยมใช้กันมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะทำงานได้เร็วกว่าและมีการเปลี่ยนผ้าเบรกได้ง่ายกว่าดรัมเบรก ปัจจุบันรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไปทุกรุ่น จะมีการใช้ดิสก์เบรกที่ล้อคู่หน้ากันทั้งหมดแล้ว หลักการทำงานก็คือ จะมีแผ่นเหล็กที่เราเรียกว่าจานเบรก ติดเป็นแนวตั้งแล้วหมุนไปตามล้อ และก็จะมีชุดเบรกที่ประกอบผ้าเบรคที่แนบอยู่กับจานเบรกทั้ง 2 ด้าน และก้ามปูเบรกที่จะกดผ้าเบรกให้เข้าไปชิดกับจานเบรกเพื่อลดความเร็วของรถหรือหยุดรถตามแรงกดที่แป้นเบรกดิสก์เบรกนั้น ระบายความร้อนได้เร็ว เมื่อเปียกน้ำก็แห้งง่าย เปลี่ยนผ้าเบรกได้ง่าย แต่ราคาอุปกรณ์ยังสูงกว่าแบบดรัมเบรกน้ำมันเบรก, หม้อลมเบรกอีกชิ้นส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งกำลังจากแป้นเบรกที่เราเหยียบ ไปสั่งให้ชุดเบรกที่ล้อทำงานได้ก็คือน้ำมันเบรกและหม้อลมเบรกนั่นเอง โดยหลักการทำงานก็คือ หม้อลมเบรกมีท่อที่เชื่อมต่อกับท่อไอดีของเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน จะมีการดูดไอดีจากภายนอกเข้าสู่เครื่องยนต์เพื่อทำการจุดระเบิด อากาศจากภายในหม้อลมเบรก จะถูกดูดไปด้วย จนทำให้ภายในเป็นสุญญากาศ และเมื่อมีแรงดันมาจากแป้นเบรก หม้อลมเบรกจะใช้สุญญากาศนี้เป็นตัวดันน้ำมันเบรกในแม่ปั๊มเบรกให้ไปสั่งชุดเบรกให้ทำงาน ไม่ว่าจะส่งแรงไปที่กระบอกเบรกที่ดรัมเบรก หรือก้ามปูเบรกของดิสก์เบรกก็ตาม ดังนั้นเราจะสังเกตเห็นได้ว่า เมื่อไหร่ที่เราไม่สตาร์ทเครื่อง เราจะไม่สามารถกดเบรกได้ หรือกดได้ก็ต้องใช้แรงมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว เพราะมาจากในตัวหม้อลมเบรกไม่มีสุญญากาศในการช่วยผลักน้ำมันเบรกนั่นเองDOT3 หรือ DOT4?เวลาเราไปที่ร้านเพื่อจะซื้อน้ำมันเบรกมาใช้งาน เราก็มักจะเจอคำว่า DOT3 หรือ DOT4 ระบุไว้ข้างกระป๋องอยู่เสมอ ก็เลยมีคำถามว่า แล้วมันคืออะไร และแตกต่างกันอย่างไรทั้ง DOT3 และ DOT4 คือตัวกำหนดมาตรฐานคุณสมบัติของน้ำมันเบรก หลักใหญ่ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนคือเรื่องของจุดเดือดที่แตกต่างกัน โดย DOT4 นั้นมีจุดเดือดที่สูงกว่า DOT3 ทำให้สามารถใช้งานกับรถที่ใช้ความเร็วสูงได้อย่างดี เพราะถ้าเราใช้งานผิดประเภท แล้วตัวน้ำมันเบรกมีอาการเดือด จะทำให้เบรกไม่สามารถทำงานได้ปกติ จนอาจส่งผลให้เกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ ซึ่งปกติแล้วการเลือกใช้งานให้เลือกตามคู่มือแนะนำเป็นสำคัญขอบคุณข้อมูลจาก https://www.valvoline.co.th/information/tips/201809.php