“เมื่อพูดถึง “ระบบเบรค” ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญไปที่ชิ้นส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นผ้าเบรค-จานเบรค-คาลิปเปอร์ โดยมองข้ามสิ่งสำคัญคือ “น้ำมันเบรค” ไป ทั้งนี้ขอแนะนำให้เปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรค” ปีละครั้ง ถึงตรงนี้หลาย ๆ ท่านคงเริ่มสงสัยว่ามันจำเป็นขนาดนั้นเชียวหรือ? วันนี้ จึงขอนำทุกท่านมารู้จักกับเจ้า “น้ำมันเบรค” ให้ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม “น้ำมันเบรค” มีหน้าที่เป็นตัวกลางถ่ายทอดกำลัง กล่าวคือเมื่อเราเหยียบเบรค แรงกดจะถูกส่งไปที่ชุดแม่ปั้มเบรคบนที่มีหม้อลมช่วยผ่อนแรง จากนั้นแม่ปั้มเบรคจะทำหน้าที่อัดแรงดันน้ำมันเบรค ผ่านไปยังวาล์วปรับแรงดันให้เหมาะสมกับเบรคหน้า-หลัง ก่อนกระจายแรงผ่านลูกสูบไปดันผ้าเบรคให้เสียดทานกับจานเบรคจนเกิดความฝืดส่งผลให้รถชะลอความเร็วลง จนหยุดในที่สุด มาตรฐานความปลอดภัย “น้ำมันเบรค” ที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดได้กำหนดชื่อมาตรฐานไว้คือ “DOT” (Department of Transportation) โดยกำหนดจุดเดือดของน้ำมันเบรค “DOT” 3 ต้องมีจุดเดือดไม่ต่ำกว่า 205 องศาเซลเซียส “DOT” 4 ต้องมีจุดเดือดไม่ต่ำกว่า 230 องศาเซลเซียส และ“DOT” 5 ต้องมีจุดเดือดไม่ต่ำกว่า 260องศาเซลเซียส คุณสมบัติของ “น้ำมันเบรค”ที่ดี -เป็นตัวกลางถ่ายทอดกำลังจากแป้นเบรก สู่ ระบบเบรคได้ดี -มีความหนืดที่เหมาะสม ทุกช่วงอุณหภูมิ ทั้งร้อน-เย็น -ไม่เป็นอันตรายต่อลูกยาง และชิ้นส่วนที่เป็นโลหะในระบบเบรค -เป็นสารหล่อลื่นที่ดี เพื่อป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนที่เสียดสีกัน ภายในระบบเบรค -มีจุดเดือดสูงและไม่ระเหยได้ง่าย -รักษาคุณสมบัติต่างๆ ได้นาน ปัจจัยที่ทำให้ “น้ำมันเบรค”เสื่อมสภาพ -ความร้อน อันเนื่องมาจากการเบรกกะทันหัน หรือเบรกบ่อยๆ ภายใต้ความเร็วสูง จะส่งผลให้ “น้ำมันเบรค” ซึมซับความร้อนเอาไว้ หากระบายสู่ส่วนอื่นไม่ทันจนถึงจุดเดือดสูงสุด “น้ำมันเบรก” ก็จะระเหยกลายเป็นไอในกระบอกสูบเบรก ซึ่งในช่วงนี้จะทำให้ไม่มีแรงดันที่จะไปกระทำต่อลูกสูบเบรค ให้ไปดันผ้าเบรก ส่งผลให้เกิดอาการเบรกหาย-เบรคลึก-เบรคไม่อยู่ หรือที่เรียกว่า “เบรคแตก” ดังนั้นจุดเดือดของ “น้ำมันเบรค” จึงมีความสำคัญมาก ต่อประสิทธิภาพระบบเบรค -ความชื้น “น้ำมันเบรค” มีคุณสมบัติอันไม่พึงประสงค์ คือเป็นสารที่ดูดซับความชื้นจากอากาศได้ดี แถมยังสามารถผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันได้ และเมื่อความชื้นเข้ามาปะปนอยู่ใน “น้ำมันเบรก” ส่งผลให้มีจุดเดือดลดต่ำลง ยิ่งประเทศไทยจัดเป็นเขตที่มีความชื้นสูง จึงเป็นที่มาของการแนะนำให้เปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรค” ทุก 1 ปี เพื่อไล่ความชื้นที่ผสมอยู่ในน้ำมันเบรค และยังเป็นการป้องกันการกัดกร่อนจากสนิม ที่เกิดจากความชื้นสะสมในกระบอกสูบเบรค ซึ่งเป็นต้นตอทำให้ลูกยางเบรกเป็นรอยและรั่วในที่สุด เทคนิคควรรู้ -อย่าเติมน้ำมันเบรกคนละเกรดผสมกัน หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อ-เกรด ให้เปลี่ยนถ่ายของเก่าออกจากระบบให้หมดก่อน -โดยทั่วไปผู้ผลิตรถยนต์จะกำหนดให้ใช้น้ำมันเบรค ”DOT” 3 หรือ ”DOT” 4 และ90% จะเติม ”DOT” 3มาจากโรงงาน แต่เมื่อเปลี่ยนถ่ายสามารถใช้ ”DOT” 4หรือ”DOT” 5 ซึ่งมีจุดเดือดสูงกว่าได้ -เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ในระบบเบรก ควรเปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรก” ทุก ๆ 1 ปี ขอบคุณข้อมูลจาก www.oilsquare.com