“ฤดูฝน” เป็นช่วงที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มากกว่าปกติ จากทัศนวิสัยที่ไม่ค่อยดี และถนนที่เปียกลื่น ทำให้ต้องควบคุมรถอย่างระมัดระวังมากขึ้นเท่าตัว ดังนั้นทุกคนควรเช็กการทำงานของรถให้ดีก่อนออกเดินทางทุกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องเบรกที่ต้องสังเกตบ่อย ๆ เพราะเป็นส่วนที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ๆ แต่จะมีวิธีเช็กยังไงบ้าง? ครั้งนี้เรามีคำแนะนำในการเช็กเบรก 2 Step ง่าย ๆ มาฝากกันครับ
Step 1 : เริ่มจากการเช็กผ้าเบรก
ควรเช็กและสังเกตปริมาณผ้าเบรกเบื้องต้น ซึ่งมีอยู่หลายวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้
สังเกตเวลาเหยียบเบรก หากต้องเหยียบลึกมากกว่าปกติ หรือเหยียบแล้วรถยังไม่ชะลอต้องเหยียบย้ำหลายครั้ง เป็นสัญญาณชี้ชัด ว่าผ้าเบรกเหลือน้อย
ดึงเบรกมือสูงขึ้นกว่าปกติ หากต้องดึงเบรกมือสูงขึ้นกว่าทุกครั้ง นั่นหมายความว่าผ้าเบรกอาจพร่องลงไป หรือมีปัญหาเรื่องการรั่วซึมของน้ำมันเบรก ควรรีบเข้าศูนย์บริการทันทีเพื่อความปลอดภัย
สังเกตไฟเตือนบนหน้าปัด ไฟเตือนจะขึ้นเมื่อส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบรกเกิดความผิดปกติ เช่น ผ้าเบรกเหลือน้อยกว่ากำหนด น้ำมันเบรกขาด หรือสายน้ำมันเบรกรั่ว หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจเป็นอันตราย แนะนำให้รีบเข้าศูนย์บริการทันที
Step 2 : เช็กน้ำมันเบรก
น้ำมันเบรกมีความเกี่ยวเนื่องกันโดยตรง ยิ่งผ้าเบรกพร่องลงไปเท่าไหร่ น้ำมันเบรกก็จะลดลงตามไปด้วย เพราะลูกสูบในคาร์ลิปเปอร์เบรกจะดันผ้าเบรกที่บางลงให้จับจานเบรกได้แน่นขึ้น ทำให้น้ำมันเบรกถูกใช้งานไป เราสามารถเช็กน้ำมันเบรกได้ง่าย ๆ จากใต้ฝากระโปรง โดยสังเกตที่กระปุกน้ำมันเบรก ถ้าพึ่งเติมจะอยู่ในระดับที่คำว่า Max แต่ถ้าน้ำมันเบรกลดลงไปใกล้ขีดคำว่า Min นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าควรเติมได้แล้ว
น้ำมันเบรกที่มีมาตรฐานดูยังไง เลือกแบบไหนเหมาะที่สุด
น้ำมันเบรกมีเกณฑ์มาตรฐานการรับรองจากหน่วยงานระดับสากลหลายราย สำหรับมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ DOT ย่อมาจาก Department of Transportation ซึ่งเป็นมาตรฐานหลักจากสหรัฐอเมริกา แบ่งเกรดตามอุณหภูมิจุดเดือดของน้ำมันเบรก คือ จุดเดือดแบบแห้ง (Dry Boiling Point) และจุดเดือดเปียก (Wet Boiling Point)
จุดเดือดแบบแห้ง จะวัดจากน้ำมันเบรกใหม่ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำเลย ส่วนจุดเดือดแบบเปียกจะวัดจากน้ำมันเบรกที่มีน้ำผสมลงไปไม่เกิน 3.7% ทำให้จุดเดือดของน้ำมันเบรกลดลง ส่งผลให้เบรกใช้งานได้ไม่เต็มที่ และน้ำมันเบรกเสื่อมสภาพ หากน้ำมันเบรกมีความร้อนถึงจุดเดือดบ่อย ๆ จะทำให้จุดเดือดของน้ำมันเบรกต่ำลงไปเรื่อย ๆ จากความชื้นที่เพิ่มเข้ามา เพราะเวลาน้ำเดือดจะทำให้เกิดไอน้ำอยู่ภายในกระปุก
สำหรับเกรดน้ำมันเบรกที่รถยนต์นิยมใช้มากที่สุดคือ DOT 3 และ DOT 4 ซึ่ง 2 เกรดนี้ต่างกันที่ DOT 4 จะมีจุดเดือดสูงกว่า เหมาะสำหรับเบรกและคลัตช์ ของรถทุกชนิดที่ระบุให้ใช้น้ำมันเบรกมาตรฐาน DOT3 หรือ DOT4 โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ที่ติดตั้งระบบอิเลคทรอนิกส์ เพื่อช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยในการเบรกและการควบคุมรถ เช่น ระบบ ABS, EBD, BA, VSC TRC และอื่นๆ รวมถึงรถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของรถยนต์แต่ละรุ่นด้วย เพราะถ้าใช้ผิดประเภทอาจทำให้เบรกใช่งานไม่ได้